2555/06/30

เรารักตัวเองจริงหรือเปล่านะ


คุณรักตัวเองแค่ไหน คำถามนี้ดูไม่น่าถามเลย เพราะทุกคนก็รักตัวเองทั้งนั้น แต่แน่ใจหรือว่า คุณรักตัวเองจริงๆ
มาดูกันไหมว่าคุณรักตัวเองแค่ไหน ว่างๆ ลองอยู่กับตัวเองคนเดียว จะอยู่ในห้อง ใต้ต้นไม้หรือริมน้ำก็แล้วแต่

วางงานอื่นทั้งหมด ปิดโทรศัพท์มือถือ โทรทัศน์และเครื่องเสียง รูปก็ไม่ต้องวาด หนังสือก็ไม่ต้องอ่านหรือเขียน ทำอย่างเดียวคือตามลมหายใจ หรือจะอยู่เฉยๆ นิ่งๆ ก็ได้

คนส่วนใหญ่อยู่ในสภาพอย่างนี้ได้ไม่ถึงชั่วโมง ก็กระสับกระส่าย นึกหงุดหงิดคิด ถึงโทรศัพท์ หรือเพื่อนสักคนที่อยากคุย ถ้ามีหนังสือวางอยู่ใกล้ๆ ก็อยากจะหยิบฉวยมาอ่านทั้งๆ ที่เป็นหนังสือธรรมะ ซึ่งตนเองไม่เคยนึกอยากแตะมาก่อนเลย แต่ถ้าไม่มีหนังสือ ก็เกิดอยากกวาดบ้าน หรือล้างจานขึ้นมา หาไม่ก็พยายามคิดค้นงานสักอย่าง ขึ้นมาทำ ถ้าโชคร้ายรอบตัวไม่มีงานอะไรที่จะทำได้ ก็ปล่อยใจให้เตลิดเปิดเปิง คิดโน่นคิดนี่สารพัด


สุดท้ายเมื่อไม่รู้จะทำอะไรจริงๆ ก็เอนตัวนอน
ทั้งหมดนี้เราเรียกว่าเป็น การฆ่าเวลา


แต่ที่จริงเป็นการพยายามหนีห่างจากตัวเองต่างหาก
เราจะหนีห่างจากตัวเองไปทำไม ถ้าหากเรารักตัวเอง?


ความรักตัวเองที่จริงเป็นเพียงแค่ถ้อยคำ เพราะลึกๆแล้ว คนเราส่วนใหญ่ มักจะทนอยู่กับตัวเองไม่ได้
ดังนั้น พอมีเหตุให้ต้องอยู่กับตัวเอง จึงรู้สึกกระสับกระส่ายขึ้นมา หรือไม่ก็ต้องหาอะไรสักอย่างมาดึงความสนใจออกจากตัวเอง เช่น คุยกับเพื่อน อ่านหนังสือ ฟังเพลง ดูโทรทัศน์ ขับรถเล่น ขลุกกับงาน หรือนอน ถ้าเรารักตัวเองจริงๆแล้ว การอยู่กับตัวเอง จะเป็นเรื่องยากอะไร ขึ้นชื่อว่ารัก ย่อมชักนำให้ปรารถนาอยู่ใกล้มิใช่หรือ แต่ทุกวันนี้ การอยู่กับตัวเองกลับกลาย เป็นเรื่องที่ต้องทนหรือทนได้ยาก เพราะ เราไม่สามารถเผชิญกับความว้าวุ่นในตัวเองได้


เมื่อใดที่ต้องอยู่นิ่งๆ ไม่มีอะไรทำ จิตจะฟุ้งซ่าน ความคิดจะกระเจิง เรื่องสารพันสารเพ จะประดังประเดเข้ามาจนแทบจะคุมไม่อยู่ ทางหนึ่งที่พอจะสยบมันได้ก็คือ หาเรื่องดึงจิตออกไปนอกตัวเสีย
หรือพาตัวไปอยู่ท่ามกลางผู้คน ในหมู่เพื่อนฝูง ตามศูนย์กลางค้า หรือทำตัวไม่ให้ว่างเสียจนถึงเวลานอน


เป็นเพราะหาความสงบกับตัวเองไม่ได้นี่เอง คนส่วนใหญ่จึงไม่สามารถเป็นมิตรกับตัวเองได้ หนักเข้าก็แปลกแยกหน่ายแหนงตัวเอง ในที่สุดก็ประกาศศึกสงครามกับตัวเอง ความทุกข์ที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่สุมรุมในตัวเท่านั้น หากยังระบายใส่คนรอบตัวอีกด้วย เราจะรักตัวเองได้อย่างแท้จริง เมื่อสามารถสัมผัสกับความสงบภายในตน เป็นความสงบที่เกิดจากจิตอันสงัด แต่มิได้สงัดแบบสลบไสล หากเป็นจิตที่รู้ตัวทั่วพร้อมเสมอ

ความรู้ตัวทั่วพร้อมนี้แหละ ที่น้อมจิต ให้กลับสู่ตนด้วยความนิ่ง แจ่มชัดมั่นคง ไม่ซัดส่าย นำมาซึ่งความสงบเย็นจากภายใน จิตที่สงบ และแจ่มกระจ่างได้แล้วนั้น ย่อมนำสันติภาพมาสู่ใจเรา เมื่อเรามีสันติภาพภายใน เลิกทำศึกสงครามกับตัวเอง มิตรภาพกับตนเองก็เกิดขึ้น ความรักตนเองอย่างแท้จริง ก็มิใช่เป็นแค่ถ้อยคำอีกต่อไป อีกทั้งความรักตนเองเช่นนี้ ก็มิใช่ความเห็นแก่ตัว หรือสิ่งที่น่ารังเกียจ เพราะเมื่อบุคคลรักตนเองได้อย่างแท้จริง ก็ไม่ยากที่จะรักคนอื่นอย่างแท้จริงเช่นกัน

เราทำอะไรต่ออะไรมามากแล้ว ลองหันมาสงบศึกภายในตัวเองจะดีไหม ด้วยการฝึกอยู่กับตัวเอง ใช้ลมหายใจช่วยกำกับจิตให้อยู่นิ่ง ตื่นตัว หลุดจากอารมณ์ต่างๆ อย่างรวดเร็ว ไม่ช้าไม่นาน จิตนี้แหละจะนำมิตรภาพและสันติภาพมาสู่เรา ขณะที่ทั่วโลกกำลังเพรียกหาสันติภาพ เราอย่าลืมสร้างสันติภาพในตัวเราไปด้วย

และท่องอยู่เสมอว่า “ถ้าไม่ฝึกจิต... ตลอดชีวิตไม่พบความสุข”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น